ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์ที่มีป้ายกำกับ sport psychology

Coach(การหมดไฟในผู้ฝึกสอนกีฬา)

การหมดไฟในผู้ฝึกสอนกีฬา ( Coach)          ผู้ฝึกสอนที่มีการหมดไฟเกิดขึ้นนั้น มักมีสาเหตุส่วนใหญ่จากความกดดันที่ต้องนำพาทีมสู่ชัยชนะในการแข่งขันแต่ละครั้ง การแทรกแซงต่างๆ ทั้งจากระบบการบริหารจัดการทีมกีฬา จากผู้ปกครองรวมไปถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลการรักษาระเบียบวินัย ความต้องการให้มีความสมบูรณ์เกิดขึ้นมากที่สุด ความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน และความกดดันจากภายนอกอื่นๆ สามารถนำพาผู้ฝึกสอนให้เกิดการหมดไฟได้ อ้างอิง : ชื่อหนังสือ จิตวิทยาการกีฬา ปีที่พิมพ์ 2556                            จัดพิมพ์โดย กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Officials(การหมดไฟในเจ้าหน้าที่กีฬา)

การหมดไฟในเจ้าหน้าที่กีฬา ( Officials)        เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่กับนักกีฬาหรือทีมกีฬาเป็นประจำจะมีความเครียดเกิดขึ้น ซึ่งความรู้สึกที่ไม่ดีเหล่านั้นสามารถจะส่งผลต่อการหมดไฟทางการกีฬาได้นอกจากนั้นอิทธิพลของสังคมรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ชม และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ยังมีผลต่อการหมดไฟทางการกีฬาของเจ้าหน้าที่ได้เช่นกัน ซึ่งเห็นได้บ่อยครั้งว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานอยู่กับนักกีฬาหรือทีมกีฬาอาจแสดงความรู้สึกทางลบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้เสมอ อ้างอิง : ชื่อหนังสือ จิตวิทยาการกีฬา ปีที่พิมพ์ 2556                        จัดพิมพ์โดย กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Athletic trainers(การหมดไฟในผู้ฝึกนักกีฬา)

การหมดไฟในผู้ฝึกนักกีฬา ( Athletic trainers)                   ผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกซ้อมนักกีฬาเป็นระยะเวลานานตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการแข่งขัน และบางครั้งยังต้องทำงานอื่นๆ ร่วมด้วยตลอดทั้งวัน รวมถึงการดูแลนักกีฬาที่อาจมีความหลากหลายของกลุ่มอายุแต่อยู่ภายในทีมเดียวกัน การทำงานเหล่านี้ซ้ำๆ นานๆ ย่อมมีโอกาสให้เกิดความเครียดได้ ผู้ฝึกนักกีฬาที่มีบุคลิกภาพแบบ A มีโอกาสเกิดภาวะหมดไฟได้มากกว่าผู้ฝึกนักกีฬาที่มีบุคลิกภาพแบบ B ดังนั้นผู้ฝึกนักกีฬาที่ต้องทำหน้าที่หลายบทบาท มักเกิดอาการสับสนและไม่ชัดเจนในบทบาทที่แท้จริงของตนเอง จึงเป็นสาเหตุของการเกิดการหมดไฟทางการกีฬา          ( บุคลิกภาพแบบ A ชอบอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยควบคุมตนเอง ชอบทำตามใจดังที่ตนปรารถนา เก็บตัว ไม่ชอบเลียนแบบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไม่ชอบงานที่เป็นระเบียบแบบแผน ส่วนบุคลิกภาพแบบ B ชอบความสนุกและคลายเครียด มากกว่าจะเล่นเพื่อเอาชนะ) อ้างอิง : ชื่อหนังสือ จิตวิทยาการกีฬา ปีที่พิมพ์ 2556 ...

Aggressive in sport(ความก้าวร้าวทางการกีฬา)

ความก้าวร้าวทางการกีฬา ( Aggressive in sport)         ความก้าวร้าวทางการกีฬา เป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับลักษณะและการให้ความหมายของความก้าวร้าวทางการกีฬา เพราะหากกล่าวถึงความก้าวร้าวเพียงอย่างเดียวย่อมหมายถึงพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรุนแรงเป็นพฤติกรรมที่ ไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ในทางการกีฬามีลักษณะการแสดงออกบางประการจัดอยู่ในกลุ่มลักษณะความก้าวร้าวเพียงแต่ไม่มีเจตนาที่ตั้งใจให้เกิดอันตรายหรือการบาดเจ็บอย่างสาหัส การทำความเข้าใจกับความหมายของความก้าวร้าวช่วยลดปัญหาความเข้าใจผิดต่างๆ ได้อย่างมากคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการที่คนอื่นมีความคิดเห็นแตกต่างกับเรา การมีความคิดลบหรือความปรารถนาให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บคือความหมายของความก้าวร้าวซึ่งความก้าวร้าวไม่ใช่ลักษณะของความรู้สึก เช่น ความโกรธหรือสภาวะทางอารมณ์อื่นๆ แต่ความก้าวร้าวเป็นลักษณะของพฤติกรรม ลักษณะของความก้าวร้าว ในทางการกีฬาแบ่งลักษณะของความก้าวร้าวที่เกิดขึ้นเป็น 3 ลักษณะคือ    1. พฤติกรรมความก้าวร้าวแบบโกรธแค้นหรือตั้งใจท ำร้าย เป็น ความก้าวร้าวที่มีวัตถุปร...

กุญแจ 3 ประการ สู่ความสำเร็จ

กุญแจ 3 ประการ สู่ความสำเร็จ   ความชัดเจน ความสามารถ ความมุ่งมั่น     ความชัดเจน คือ ต้องรู้ว่าเราคือใคร ต้องการอะไรและจะไปทางไหน มีแผนหรือไม่และทำอะไรตามแผนนั้นให้เป็นจริงแล้วบ้าง ในแต่ละวันจัดลำดับความสำคัญของเรื่องราวต่างๆอย่างไร ซึ่งถ้าทำแล้วและมีความก้าวหน้า จะมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้น มีความเชื่อ และศรัทธาในตัวเองเพิ่มขึ้นความชัดเจน ความสามารถ ความมุ่งมั่น     ความสามารถ คือ ต้องเก่งในเส้นทางที่เลือกด้วยการอุทิศตนให้กับการเรียนรู้ที่ ไม่มีที่สิ้นสุดไม่เคยหยุดที่จะเติบโต และจะรู้สึกผูกพันกับสิ่งที่ทำทุกๆวัน      ความมุ่งมั่น คือ วินัยในตนเองที่จะบังคับตัวเองให้มีจิตใจเด็ดเดี่ยว อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และยึดมั่นกับการทำสิ่งนั้นจนกว่าจะสำเร็จ มีความอดทนที่ปราศจากการเบี่ยงเบน มุ่งไปเป็นเส้นตรงอย่างไม่ท้อแท้กับอุปสรรคนานัปการ อ้างอิง : แนวคิดและการประเมินตนเองทางจิตวิทยาการกีฬา.-- กรุงเทพฯ : กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , 2558. 184 หน้า.

Motivation in Sport( แรงจูงใจทางการกีฬา)

แรงจูงใจทางการกีฬา (Motivation in Sport)               แรงจูงใจ คือ พลังผลักดันให้บุคคลแสดงพฤติกรรม ผู้ที่มีแรงจูงใจจะใช้ความพยายามในการกระ ทำเพื่อไปสู่เป้าหมายโดยไม่ลดละแต่ผู้ที่ ไม่มีแรงจูงใจจะไม่แสดงความพยายามหรือเลิกกระทำก่อนบรรลุเป้าหมาย             กระบวนการจูง ความต้องการของบุคคลในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะมีผลต่อการกำหนดทิศทาง ( Direction) และระดับความตั้งใจที่จะปฏิบัติ ( Intensity) ประเภทของแรงจูงใจ     1. แรงจูงใจภายใน แรงจูงใจภายในเป็นสิ่งผลักดันที่มาจากความต้องการภายในตัวบุคคล ซึ่งอาจเป็นเจตคติ ความคิดเห็น ความสนใจ ความตั้งใจการเห็นคุณค่าในตนเอง ความพอใจ ความต้องการ เป็นต้น     2. แรงจูงใจภายนอก แรงจูงใจภายนอกเป็นสิ่งผลักดันที่มาจากภายนอกตัวบุคคล อาจเป็นการได้รับรางวัลเกียรติยศ ชื่อเสียง การได้รับการยอมรับการยกย่องชมเชย               ผู้ฝึกสอน ควรเน้นให้นักกีฬารับรู้ว่าตนเองมีอิสระในการตัดสินใจหร...

sport psychology(แรงจูงใจกับการกีฬา)

แรงจูงใจกับการกีฬา       นักจิตวิทยาการกีฬา พยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลที่บุคคลตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา เพื่ออธิบายสาเหตุหรือความต้องการซึ่งมีความแตกต่างกันออกไปตามความคิด ความรู้สึก ความเป็นเหตุเป็นผลของแต่ละบุคคล ขณะเดียวกันเมื่อทราบเหตุผลของการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาแล้ว ยังต้องทำความเข้าใจถึงเหตุผลหรือความต้องการที่ทำให้เกิดการคงอยู่ของพฤติกรรมหรือการเล่นกีฬานั้นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาระดับความต้องการที่แท้จริงของบุคคลไว้ นอกจากกลุ่มผู้ที่เริ่มเล่นกีฬาและผู้ที่ยังคงเล่นกีฬาแล้ว ยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนมากที่มีโอกาสในการเข้าสู่กระบวนการกีฬา แต่ด้วยเหตุผลใดจึงมีการตัดสินใจหยุดหรือเลิกเล่นกีฬาในที่สุดดังนั้นจึงขอสรุปที่มาของแรงจูงใจในผู้ที่เริ่มเล่นกีฬา ผู้ที่ยังคงเล่นกีฬา และผู้ที่เลิกเล่นกีฬา ดังต่อไปนี้        แรงจูงใจของผู้ที่เริ่มเล่นกีฬา ผู้ที่เริ่มเล่นกีฬามักมีสาเหตุที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามความต้องการส่วนบุคคลหรือความต้องการตามระดับของช่วงอายุหรือพัฒนาการตามวัยต่างๆ โดยสรุปสาเหตุของผู้ที่เริ่มเล่นกีฬา มีดังน...

sport psychology(ทฤษฎีแรงจูงใจ)

ทฤษฎีแรงจูงใจ         ทฤษฎีรวมถึงโมเดลแรงจูงใจต่างๆ เป็นการอธิบายความต้องการของมนุษย์ว่ามีโครงสร้างอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างแรงจูงใจ สิ่งสำคัญในการพิจารณาลักษณะแรงจูงใจของนักกีฬา คือ ระดับความมากน้อยของการปฏิบัติ ( Intensity) ทิศทางที่จะไปสู่เป้าหมาย ( Direction)  และความต่อเนื่องสม่ำเสมอ ( Persistence) พฤติกรรมที่แสดงออกของนักกีฬามีผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของนักกีฬาได้ ทฤษฎีแรงจูงใจเกี่ยวกับการกีฬามีอยู่หลากหลายทฤษฎี เช่น ทฤษฎีแรงจูงใจภายในและการประเมินความรู้ ทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ทฤษฎีการอ้างสาเหตุและทฤษฎีการกำหนดเป้าหมาย โดยสรุปมาพอสังเขปดังต่อไปนี้ ทฤษฎีแรงจูงใจภายในและการประเมินความรู้  ( Intrinsic motivationand cognitive evaluation theory)         เป็นการอธิบายลักษณะแรงจูงใจว่าสามารถเกิดขึ้นเองได้ โดยไม่มีรางวัลหรือสาเหตุภายนอกมาเกี่ยวข้อง เป็นการเล่นกีฬาเพื่อความสนุกสนาน ซึ่งแรงจูงใจภายในเกิดได้อย่างไร เพิ่มได้อย่างไร ไม่สามารถอธิบายได้ จึงต้องมีทฤษฎีแรงจ...

sport psychology(ความวิตกกังวลทางการกีฬา)

ความวิตกกังวลทางการกีฬา ( Anxiety in Sport) ทฤษฎีความวิตกกังวลทางการกีฬา      ความวิตกกังวลและความสามารถในการแสดงออกของนักกีฬามีส่วนสัมพันธ์กัน โดยอธิบายได้ด้วยทฤษฎีความวิตกกังวลที่มีลักษณะเป็นมิติเดียว( Unidimensional theories) ซึ่งประกอบด้วย 2 ทฤษฎี คือ ทฤษฎีแรงขับ ( Drive theory) ความวิตกกังวลทางการกีฬา( Anxiety in Sport) และทฤษฎีอักษร ยู คว่ำ ( Inverted – u – theory) และทฤษฎีความวิตกกังวลตามสถานการณ์แบบหลายมิติ ( Multidimensional anxiety theory) โดยสรุป มาพอสังเขปดังต่อไปนี้คือ 1. ทฤษฎีแรงขับ (Drive theory) ทฤษฎีแรงขับของ ฮัลล์ เป็นการอธิบายระดับความวิตกกังวลว่าเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความสามารถ ถ้านักกีฬามีความวิตกกังวลต่ำจะมีความสามารถต่ำและหากนักกีฬามีความวิตกกังวลสูงจะมีความสามารถสูงทฤษฎีนี้มักใช้อธิบายในนักกีฬาประเภทที่ต้องการความแข็งแรง และมีการใช้พลังงานมากๆเช่น นักกีฬายกน้ำหนัก และนักกีฬาอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ทฤษฎีแรงขับได้รับความนิยมจากนักวิจัยจำนวนมากในช่วงปี ค.ศ.1943 – ค.ศ.1970 แต่หลังจากนั้นได้รับความนิยมน้อยลงเนื่องจากมีความยากในการทดสอบ แ...

Personality of Sport(ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพของนักกีฬา)

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพของนักกีฬา        บุคลิกภาพเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้นักกีฬามีบุคลิกภาพแตกต่างกัน คือ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม 1. อิทธิพลของพันธุกรรมที่มีต่อบุคลิกภาพของนักกีฬา บุคลิกภาพภายนอกจะได้รับอิทธิพลจากพันธุกรรมเป็นส่วนใหญ่ เช่น รูปร่าง หน้าตา สีผิว ความสูงลักษณะทางเพศ กลไกการทำงานของร่างกายบางอย่างแม้กระทั่งโรคภัยไข้เจ็บ เช่น พ่อแม่มีรูปร่างสูงใหญ่ ลูกที่เกิดมาจึงมีโครงสร้างที่สูงใหญ่ตามไปด้วย ดังนั้นหากลูกต้องการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลจึงมีความได้เปรียบด้านโครงสร้างร่างกายที่เหมาะสมกับชนิดกีฬา นอกจากนั้นผู้ที่เป็นนักกีฬาคงทราบกันดีว่า การที่จะเล่นกีฬาได้อย่างดีนั้น นอกจากจะมีร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่เข้มแข็งแล้ว ระดับสติปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมยังมีผลต่อการตัดสินใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมการแข่งขันได้เช่นเดียวกัน นอกจากบุคลิกภาพภายนอกที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแล้วบุคลิกภาพภายในบางประการอาจได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย เช่น ความคิดหรือการตอบสนอ...

การหมดไฟ (Burnout) ประเภทของการหมดไฟทางการกีฬา

ประเภทของการหมดไฟทางการกีฬา ประเภทของการหมดไฟทางการกีฬา 1. การหมดไฟแบบชั่วคราว เป็นการแสดงถึงภาวะทางจิตใจและความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นจากสภาวะทางอารมณ์ทำให้มีการตอบสนองต่อผู้อื่นทางลบ เกิดความรู้สึกรับรู้ความมีคุณค่าในตนเองต่ำลง และมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้น ซึ่งหากนักกีฬาได้รับการช่วยเหลือให้ผ่านพ้นภาวะนี้ไปได้จะสามารถกลับมาเล่นกีฬาได้เช่นเดิม 2. การหมดไฟแบบถาวร จะมีผลทำให้นักกีฬาหยุดหรือเลิกการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาโดยไม่กลับเข้าสู่การเล่นกีฬาชนิดนั้นอีก แต่ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้นักกีฬายังคงสามารถอยู่กับกีฬานั้น เช่น เงินรางวัล ความกดดัน และความคาดหวังจากพ่อแม่หรือผู้ฝึกสอนทำให้ตนเองยังคงต้องอยู่กับกีฬานั้นจะด้วยความจำเป็นหรือความความกดดันก็ตาม ในการศึกษาระยะยาวพบว่านักกีฬาที่ต้องอยู่กับการเล่นกีฬาด้วยปัจจัยที่มาจากความจำเป็นมากกว่าความต้องการที่แท้จริงหรือความสนุก ในไม่ช้านักกีฬาจะหยุดเล่นกีฬาไม่ช้าก็เร็วขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความอดทนของนักกีฬาแต่ละบุคคล สาเหตุของการหมดไฟทางการกีฬา 1. สถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย ปัจจัยที่เกิดจากด้านร่างกายเช่น การได้รับบาดเ...

การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking)

การคิดเชิงสร้างสรรค์ ( Creative thinking)   การคิดเชิงสร้างสรรค์ ( Creative thinking) หมายถึง ความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ การขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่ สู่ความคิดใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นความคิดที่หลากหลาย คิดได้กว้างไกล หลายแง่หลายมุม เน้นทั้งปริมาณและคุณภาพ องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ความคิดนั้นต้องเป็นสิ่งใหม่ไม่เคยมีมาก่อน ( New Original) ใช้การได้ ( Workable) และมีความเหมาะสม ( Appropriate) การคิดเชิงสร้างสรรค์จึงเป็นการคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างไปโดยสิ้นเชิงหรือที่เรียกว่า "นวัตกรรม" ( Innovation) ความคิดสร้างสรรค์ มีความหมายแยกได้เป็น 3 ประเด็นหลัก คือ 1. เป็นความคิดแง่บวก หรือ Positive thinking 2. เป็นการกระทำที่ไม่ทำร้ายใคร หรือ Constructive thinking 3. เป็นการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือ Creative thinking วิธีการฝึกเพื่อพัฒนาศักยภาพการคิดสร้างสรรค์ ม...

บุคลิกภาพทางการกีฬา (Personality of Sport) (การประเมินบุคลิกภาพ)

การประเมินบุคลิกภาพ        การประเมินบุคลิกภาพ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อต้องการให้บุคคลได้รับรู้ตนเองว่ามีบุคลิกภาพอย่างไร อีกทั้งยังเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาและปรับปรุงบุคลิกภาพของแต่ละบุคคล จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าบุคลิกภาพของบุคคลเกิดจากผลรวมของลักษณะทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะบุคลิกภาพส่วนใหญ่มักมาจากลักษณะภายในจิตใจของตนเอง ซึ่งมีทั้งซ่อนเร้นอยู่และบางส่วนตนเองสามารถรับรู้ได้ ดังนั้นนักจิตวิทยาจึงมีความพยายามที่จะค้นหาวิธีการต่างๆ ในการดึงส่วนที่เป็นบุคลิกภาพภายใน เช่น นิสัยใจคอ ความคิด ความเชื่อ เจตคติ อารมณ์ ออกมาเพื่ออธิบายลักษณะภายนอกต่างๆ สำหรับวิธีการประเมินบุคลิกภาพสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้คือ 1 . การสังเกต เป็นวิธีการที่นิยมใช้กันมากสำหรับนักจิตวิทยากลุ่มพฤติกรรมนิยมการสังเกตเป็นวิธีการทางธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ในการศึกษาจิตวิทยานั้นต้องมีหลักเกณฑ์รูปแบบ และวิธีการแปลความหมายที่แน่นอน ที่สำคัญต้องไม่นำความรู้สึกส่วนตัวเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด พฤติกรรมที่สังเกตนั้นอาจเป็นพฤติกรรมทั่วไปหรือพฤติกรรมเฉพาะ ข้อดีของวิธีการสังเกต คือ การเห็นพ...

ลักษณะบุคลิกภาพของการเป็นนักกีฬาที่ดี

ลักษณะบุคลิกภาพของการเป็นนักกีฬาที่ดี นักกีฬาที่ต้องการประสบความสำเร็จทางการกีฬาและมีความสุข ในการดำเนินชีวิต ควรมีลักษณะบุคลิกภาพที่ดี ดังต่อไปนี้ 1. มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ 2. มีจิตใจเบิกบาน ยิ้มง่าย มีอารมณ์ขันอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์มองโลกในแง่ดี 3. วาจาสุภาพ ไพเราะ มีมารยาททางสังคม 4. แต่งกายสุภาพ สะอาด เรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ 5. มีความกระตือรือร้น และกระฉับกระเฉง 6. มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น 7. มีเหตุผลและรู้จักใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจและกระทำสิ่งต่างๆ 8. มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ มีความอดทนอดกลั้น 9. มีความเชื่อมั่นในตนเอง ขณ ะเดียวกันพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 10. มีน้ำใจนักกีฬา อ้างอิง :  ชื่อหนังสือ  จิตวิทยาการกีฬา  ปีที่พิมพ์ 2556              จัดพิมพ์โดย  กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

บุคลิกภาพทางการกีฬา (Personality of Sport)

บุคลิกภาพทางการกีฬา (Personality  of  Sport) ความหมายของบุคลิกภาพทางการกีฬา บุคลิกภาพ ( Personality) มาจากคำในภาษาลาตินว่า “ Persona” แปลว่า หน้ากาก ซึ่งหมายถึงหน้ากากที่ชาวกรีกใช้ในการแสดงละคร เมื่อสวมหน้ากากเป็นตัวอะไรก็ต้องแสดงบทบาทไปตามตัวละครนั้น นักจิตวิทยาการกีฬาให้นิยามของ “ บุคลิกภาพทางการกีฬา” ไว้ว่าบุคลิกภาพทางการกีฬา หมายถึง คุณลักษณะโดยรวมทั้งหมดของบุคคลหรือนักกีฬา ซึ่งประกอบด้วย คุณลักษณะภายนอก ได้แก่ รูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง และคุณลักษณะภายใน ได้แก่ นิสัยใจคอ ความคิด ความเชื่อ เจตคติ ค่านิยมและอารมณ์ ซึ่งคุณลักษณะทั้งหลายเหล่านี้เป็นตัวกำหนดรูปแบบของพฤติกรรมการแสดงออกทางการกีฬาจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันมีผลทำให้บุคคลหรือนักกีฬาคนนั้นแตกต่างจากบุคคลอื่น นอกจากนั้นบุคลิกภาพยังเป็นผลร่วมอย่างมีระบบของพฤติกรรมต่างๆ ตลอดจนเจตคติและค่านิยม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะนิสัยเฉพาะตัวบุคคล อาจกล่าวได้ว่าบุคลิกภาพเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างคงเส้นคงวาซึ่งทำให้บุคคลมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีความเฉพาะเจาะจง ดังนั้นการศึกษาเรื่อบุคล...

Mental Toughness(การพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ)

การพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ ความเข้มแข็งทางจิตใจของนักกีฬาสามารถฝึกฝนและพัฒนาได้ ด้วยวิธีการฝึกจิตใจ 7 ประการ คือ การสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง การควบคุมพลังงานเชิงลบ การควบคุมสมาธิ การจินตภาพ การสร้างแรงจูงใจ การสร้างพลังงานเชิงบวก และ การควบคุมเจตคติให้เป็นเชิงบวก ดังต่อไปนี้ 1. การสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นอารมณ์และความรู้สึกทางบวกที่มีความสำคัญต่อการแสดงความสามารถทางการกีฬานักกีฬาสามารถพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองได้ เช่น การพูดกับตนเองทางบวกอยู่เสมอมีความเชื่อในความสามารถของตนเองและเพื่อนร่วมทีมว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ 2. การควบคุมพลังงานเชิงลบ พลังงานเชิงลบเป็นความรู้สึกกังวลที่เกิดขึ้นจากการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะผิดหวัง ล้มเหลว การรู้สึกว่าตนเองมีความไม่ปกติด้านความคิด มีความกลัว มีความคาดหวังความสำเร็จต่ำ มีความไม่แน่ใจในความสามารถของตนเอง และมีความรู้สึกผิดปกติทางร่างกาย ดังนั้นการควบคุมพลังงานเชิงลบจึงเป็นความสามารถในการควบคุมอารมณ์ไม่ดี เช่น กลัว ท้อแท้ โกรธ ไม่พอใจที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่มีความกดดัน 3. การควบคุมสมาธิหรือความตั้งใจ...