ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา


การป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา



เนื่องจากการออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาต้องการการเคลื่อนไหว และการใช้กำลังของกล้ามเนื้อมากกว่าปกติ จึงมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากขึ้นกว่าปกติ


การป้องกันดังกล่าวต้องอาศัยการฝึกฝนเพื่อให้ข้อต่อมีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นปกติ และที่สำคัญคือ กล้ามเนื้อต่างๆ ต้องมีความยืดหยุ่นที่ดีพอ และต้องมีความแข็งแรงทนทาน เพื่อป้องกันปัญหากล้ามเนื้อฉีกขาด หรืออักเสบ
การฝีกความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ คือ การบริการเหยียดกล้ามเนื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเล่นกีฬา ส่วนการฝึกความแข็งแรงทนทายของกล้ามเนื้อ คือ การเสริมสร้างกำลัง โดยอาศัยน้ำหนักถ่วง weight training และฝึกให้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
นอกนั้น ปัจจัยภายนอก เช่น สนามกีฬา อุปกรณ์ และเครื่องป้องกันต่างๆ แต่ละชนิดกีฬาก็มีความสำคัญ ทางสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ มีคำแนะนำฝึกฝน เพื่อความเข้าใจในการป้องกันการบาดเจ็บดังกล่าว

 

ปวดไหล่ ไหล่ติดยึด


ข้อไหล่ เป็นข้อที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในร่างกาย ดังนั้น ปัญหาทุกปัญหาที่เกิดกับข้อไหล่มักจะก่อให้เกิดปัญหาข้อไหล่ติดหรือเคลื่อน ไหวไม่สุด โดยเฉพาะเมื่อไขว้หลัง หรือพยายามจะเกาหลัง เป็นต้น
ปัญหาข้อไหล่ติดมักจะเป็นผลที่ตามมาของหัวไหล่ เช่น ปวดไหล่ นอนทับตะแคงแล้วเจ็บในเวลากลางคืน แล้วต่อมาเกิดไหล่เคลื่อนไหวไม่สุด
ดังนั้นเมื่อเกิดข้อไหล่ติดยึด แพทย์จำเป็นต้องมีการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุของข้อไหล่ติดยึด เพื่อจะทำให้แพทย์รักษาได้ถูกต้องไปที่ต้นตอของสาเหตุปัญหา และจะทำให้อาการปวด เจ็บ ข้อไหล่ติดหายขาดได้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุด

  

ไหล่หลุดซ้ำ หลังจากอุบัติเหตุข้อไหล่หลุด

เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับข้อไหล่จนข้อไหล่หลุดออกจากเบ้าในครั้งแรก ผู้ป่วยมักจะเจ็บปวดมาก และอาจจำเป็นต้อไปให้แพทย์ดุงข้อไหล่ให้กลับเข้าที่ แต่หลังจากนั้นปัญหาที่มักจะเกิดตามมาอยู่เสมอคือ ไหล่หลวมและหลุดซ้ำ ซึ่งการหลุดซ้ำจะง่าย และเจ็บปวดน้วยลงในทุกครั้งที่จำนวนครั้งของข้อไหล่หลุดมากขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยจะมีปัญหาในการใช้งาน ชีวิตประจำวัน เช่น นอนแล้วไหล่หลุดเองกลางดึก หรือมีปัญหาขณะทำงาน หรือออกกำลังกาย ซึ่งข้อไหล่ที่หลุดง่ายจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรได้รับการแก้ไขให้หายขาดและสามารถกลับมาใช้งานข้อไหล่ได้ดีเหมือนเดิม โดยเฉพาะการเล่นกีฬา
การแก้ไขดังกล่าวคือ การผ่าตัดส่องกล้องข้อไหล่เพื่อทำงานเย็บซ่อมเอ็นที่ฉีกขาดให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยการผ่าตัดส่องกล้องจะทำให้บาดเจ็บน้อย ผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล 1 วัน กลับมาใช้งานได้เร็วขึ้น และผลของการผ่าตัดดีกว่าการผ่าตัดแบบเดิม เวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดที่น้อยลงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในนักกีฬาที่ต้องการกลับมาใช้งานในเวลาที่รวดเร็ว


ทำอย่างไรเมื่อเอ็น หรือหมอนรองกระดูกในข้อเข่าฉีกขาด

เมื่อเกิดอุบัติเหตุข้อเข่าบิด พลิกอาจจะเกิดปัญหาเอ็นหรือหมอนรองกระดูกในข้อเข่าฉีกขาดได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเข่าบิดแล้วมีเสียงดังขณะอุบัติเหตุ หรือมีอาการปวด เจ็บเข่าและเข่าบวมหลังจากนั้น
แพทย์เฉพาะทางจะทำการตรวจร่างกาย และทำการวินิจฉัยพิเศษด้วยเครื่องมือที่จำเป็น อาทิ x-ray, MRI ต่อไป เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
หลังจากมีอุบัติเหตุเข่าบิด พลิก ผู้ป่วยจะมีอาการปวด บวมข้อเข่าค่อนข้างมาก แต่หลังจากได้พัก ได้ยาแก้อักเสบ ประคบเย็นสักระยะแล้ว อากาจจะดีขึ้นมากจนสามารถเดินได้ แต่ผู้ป่วยจะมีอาการที่ยังหลงเหลืออยู่ เช่น เจ็บแปล๊บในเข่า เข่าบวมเมื่อใช้งานหรือเดินยืนนาน เข่าหลวม โดยเฉพาะเวลาเดินเลี้ยวเร็วๆ หรือขึ้นลงบันได ซึ่งอาการดังกล่าวจะไม่หายไปจนกว่าอาการฉีกขาดของเอ็นและหมอนรองกระดูก ข้อเข่าจะได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง


สอบถามเพิ่มเติม สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ

อ้างอิง
- See more at: http://www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases-treatment/protection-of-sport-injury#sthash.f8hxlUqz.dpuf

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ลักษณะบุคลิกภาพของการเป็นนักกีฬาที่ดี

ลักษณะบุคลิกภาพของการเป็นนักกีฬาที่ดี นักกีฬาที่ต้องการประสบความสำเร็จทางการกีฬาและมีความสุข ในการดำเนินชีวิต ควรมีลักษณะบุคลิกภาพที่ดี ดังต่อไปนี้ 1. มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ 2. มีจิตใจเบิกบาน ยิ้มง่าย มีอารมณ์ขันอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์มองโลกในแง่ดี 3. วาจาสุภาพ ไพเราะ มีมารยาททางสังคม 4. แต่งกายสุภาพ สะอาด เรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ 5. มีความกระตือรือร้น และกระฉับกระเฉง 6. มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น 7. มีเหตุผลและรู้จักใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจและกระทำสิ่งต่างๆ 8. มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ มีความอดทนอดกลั้น 9. มีความเชื่อมั่นในตนเอง ขณ ะเดียวกันพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 10. มีน้ำใจนักกีฬา อ้างอิง :  ชื่อหนังสือ  จิตวิทยาการกีฬา  ปีที่พิมพ์ 2556              จัดพิมพ์โดย  กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Motivation in Sport( แรงจูงใจทางการกีฬา)

แรงจูงใจทางการกีฬา (Motivation in Sport)               แรงจูงใจ คือ พลังผลักดันให้บุคคลแสดงพฤติกรรม ผู้ที่มีแรงจูงใจจะใช้ความพยายามในการกระ ทำเพื่อไปสู่เป้าหมายโดยไม่ลดละแต่ผู้ที่ ไม่มีแรงจูงใจจะไม่แสดงความพยายามหรือเลิกกระทำก่อนบรรลุเป้าหมาย             กระบวนการจูง ความต้องการของบุคคลในสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะมีผลต่อการกำหนดทิศทาง ( Direction) และระดับความตั้งใจที่จะปฏิบัติ ( Intensity) ประเภทของแรงจูงใจ     1. แรงจูงใจภายใน แรงจูงใจภายในเป็นสิ่งผลักดันที่มาจากความต้องการภายในตัวบุคคล ซึ่งอาจเป็นเจตคติ ความคิดเห็น ความสนใจ ความตั้งใจการเห็นคุณค่าในตนเอง ความพอใจ ความต้องการ เป็นต้น     2. แรงจูงใจภายนอก แรงจูงใจภายนอกเป็นสิ่งผลักดันที่มาจากภายนอกตัวบุคคล อาจเป็นการได้รับรางวัลเกียรติยศ ชื่อเสียง การได้รับการยอมรับการยกย่องชมเชย               ผู้ฝึกสอน ควรเน้นให้นักกีฬารับรู้ว่าตนเองมีอิสระในการตัดสินใจหร...

The muscle function(การทำงานของกล้ามเนื้อ)

การทำงานของกล้ามเนื้อ ร่างกายของเราประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อหลายร้อยมัด การเคลื่อนไหวของร่างกายจะเป็นการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อหลายมัดประสานสัมพันธ์กัน การเคลื่อนไหวโดยทั่วไปจะมีกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ต่างๆ คือ 1 Agonist muscle / Prime moves คือกล้ามเนื้อหลักที่มีการหดตัวเพื่อให้เกิดการ เคลื่อนไหวข้อต่อ ทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวในท่าทางต่างๆ และมีการเคลื่อนที่ 2 Synergist muscle คือกล้ามเนื้อที่หดตัวเพื่อช่วยกล้ามเนื้อหลักหรือกล้ามเนื้อ เสริม กล้ามเนื้อกลุ่มนี้ไม่ใช้กล้ามเนื้อกลุ่มแรกในการหดตัวตอบสนองในท่าทางนั้นๆ 3 Antagonist muscle คือกลุ่มกล้ามเนื้อมัดตรงข้ามกับกลุ่มกล้ามเนื้อหลัก จะ คลายตัวเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหว ท าหน้าที่เคลื่อนไหวข้อต่อในทิศทางตรงข้ามกลุ่มกล้ามเนื้อหลักเพื่อสร้างความสมดุลของแรง 4 Stabilizer muscle คือกลุ่มกล้ามเนื้อที่ช่วยรักษาสมดุลของการเคลื่อนไหวนั้นให้ แม่นยำถูกต้อง โดยการหดตัวเพื่อยึดหรือประคองอวัยวะส่วนนั้นไม่ให้มีการเคลื่อนที่ อ้างอิง : วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อสุขภาพทางกาย : มณินทร รักษ์บำรุง